แบบฝึกหัด
1.
การประสานงานมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
ตอบ : มี 2 ประเภท
ดังนี้
1)
การประสานงานภายในองค์การและภายนอกองค์การ การประสานงานภายใน
องค์การ หมายถึง การประสานงานภายในหน่วยงานหรือองค์การนั้น
ๆ ส่วนการ
ประสานงานภายนอกองค์การเป็นการประสานงานระหว่างหน่วยงานหรือการ
ติดต่อกับบุคลลภายนอกต่าง ๆ
2) การประสานงานในแนวดิ่ง
และการประสานงานในแนวราบ การประสานงาน
ในแนวดิ่ง หมายถึง
การประสานงานจากผู้บังคับบัญชามาสู่ผู้ใต้บังคับบัญชา
(Top down)
และการประสานงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาไปยัง
ผู้บังคับบัญชา (Bottom up) ส่วนการประสานงานในแนวราบ
หมายถึง การ
ประสานงานในระดับเดียวกัน
2.
ให้นิสิตอธิบายความสำคัญของการประสานงานกับการจัดศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้
ตอบ : 1) การแบ่งแผนกซึ่งช่วยในการประสานงาน กล่าวคือ
การจัดแผนกต่าง ๆ
บางแผนกมีความจำเป็นต้องประสานกันควรอยู่ใกล้ชิดกันเนื่องจากการติดต่ออย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้ที่ท
างานอัน
เกี่ยวเนื่องอย่างใกล้ชิดกันมากขึ้น
2) การแบ่งตามหน้าที่
3)
การจัดวางรูปงานและระเบียบการที่ชัดแจ้งแก่ทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้อง
3.
การรายงานผลมีความสำคัญต่อการจัดศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อย่างไร
ตอบ :
การรายงานผลการดำเนินงานการจัดการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้
เป็นส่วนสำคัญในการแสดงข้อมูลอย่างเป็นระบบให้กับผู้บังคับบัญชา
หรือสาธารณชนได้รับทราบผลการดำเนินงาน
และเป็นการนำเสนอเพื่อปรับปรุงในการดำเนินงานครั้งต่อ ๆ ไป
4.
ประเภทของเงินงบประมาณในการจัดศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มีอะไรบ้าง
ตอบ : แบ่งออกเป็น 7 หมวด ดังนี้
1)
หมวดเงินเดือนและค่าจ้างประจำ :
“เงินเดือน” หมายความว่า เงินที่จ่ายให้แก่ข้าราชการทุก
ประเภทเป็นรายเดือนโดยมีอัตราก
าหนดไว้แน่นอนในบัญชีถือจ่ายเงินเดือนประจำ ที่กรมบัญชีกลาง
ได้ตรวจสอบยืนยันว่าถูกต้องแล้ว และรวมตลอดถึงเงินที่กระทรวงการคลังก
าหนดให้จ่ายในลักษณะเงินเดือนและเงินเพิ่มอื่น ๆ
ที่จ่ายควบกับเงินเดือน
2) รายจ่ายหมวดค่าจ้างชั่วคราว : “ค่าจ้างชั่วคราว” หมายความว่า
เงินที่จ่ายเป็นค่าจ้างให้แก่
ลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการตามสัญญาจ้างต่อปี/ต่อเดือน/ต่อวัน
3)
รายจ่ายหมวดค่าตอบแทนใช้สอย และวัสดุ :
“ค่าตอบแทน” หมายความว่า เงินที่จ่ายตอบแทนให้แก่ ผู้ปฏิบัติงานให้ทางราชการ เช่น
เงินค่าเช่าบ้านข้าราชการ เงินตอบแทนตำแหน่งและเงินอื่น ๆ
ให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
ฝ่ายรักษาความสงบ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง อาทิ เงินช่วยเหลือ
เกี่ยวกับการศึกษาของบุตร เงินช่วยเหลือในการทำศพ
เป็นต้น “ค่าใช้สอย” หมายความว่า
รายจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งบริการใด ๆ
(นอกจากบริกาสาธารณูปโภค) รายจ่ายเกี่ยวกับการรับรองและพิธีการ
และรายจ่ายเกี่ยวเนื่องกับการปฏิบัติราชการที่ไม่เข้าลักษณะรายจ่ายหมวดอื่น ๆ “ค่าวัสดุ” หมายความว่า
1. รายจ่ายเพื่อซื้อ แลกเปลี่ยน จ้างทำ
ทำเองหรือกรณีอื่นใด เพื่อให้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในสิ่งของดังต่อไปนี้
1.1
สิ่งของซึ่งโดยสภาพเมื่อใช้แล้วย่อมสิ้นเปลือง หมดไปเอง แปรสภาพ หรือไม่คงสภาพเดิมอีกต่อไป หรือ
1.2 สิ่งของที่มีลักษณะคงทนถาวร
แต่มีอายุการใช้งานมในระยะเวลาประมาณไม่เกิน 1
ปี หรือ
1.3
สิ่งของที่มีลักษณะคงทนถาวรและมีอายุการใช้งานในระยะเวลาประมาณ1 ปีขึ้นไป แต่มีราคาหน่วยหนึ่งหรือชุดหนึ่งไม่เกิน
5,000 บาท ยกเว้นสิ่งของตามตัวอย่างสิ่งของที่เป็นครุภัณฑ์หรือ
1.4 สิ่งของที่ส่วนราชการซื้อมาใช้ในการบ
ารุงรักษาหรือซ่อมแซมทรัพย์สิน
เพื่อให้มีสภาพหรือประสิทธิภาพคงเดิม
4)
รายจ่ายหมวดค่าสาธารณูปโภค :
“ค่าสาธารณูปโภค” หมายความว่า รายจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งบริการ สาธารณูปโภค
เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าโทรศัพท์ ค่าไปรษณีย์ ค่าโทรเลข ค่าธนาณัติ
ค่าซื้อดวงตราไปรษณียากร ค่าเช่าตู้ไปรษณีย์
ค่าบริการทางด้านโทรคมนาคม
5) ค่าที่ดิน และสิ่งก่อสร้าง : หมายความว่า
รายจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ดินและหรือสิ่งก่อสร้าง
รวมทั้งสิ่งต่าง ๆ ซึ่งติดกับที่ดินและสิ่งก่อสร้าง
และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ซึ่งเกิดขึ้นเนื่องจากการปรับปรุงที่ดิน หรือสิ่งก่อสร้าง
ซึ่งมิใช่เป็นการซ่อมแซมตามปกติ
6) รายจ่ายหมวดเงินหนุน : “เงินอุดหนุน” มี 2 ลักษณะ ได้แก่
(1) “เงินอุดหนุนทั่วไป” หมายความว่า
เงินที่จ่ายเพื่อช่วยเหลือจ่ายเป็นค่าบำรุงแก่องค์การ เอกชน นิติบุคคล
หรือกิจการอันเป็นสาธารณะประโยชน์
(2) “เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ” หมายความว่า
เงินที่จ่ายเพื่อช่วยเหลือแก่องค์การเอกชน นิติบุคคล
หรือกิจการอันเป็นสาธารณะประโยชน์ตามรายการและรายละเอียดที่สำนักงานประมาณกำหนด
7)
รายจ่ายหมวดรายจ่ายอื่น : “รายจ่ายอื่น”
หมายความว่า รายจ่ายต่าง ๆ ซึ่งไม่เข้าลักษณะรายจ่ายหมวดหนึ่งหมวด
5.
เงินอุดหนุนโดยอนุโลมมีอะไรบ้าง อธิบาย
ตอบ : 1. ค่าฌาปนกิจ
2.
ค่าสินบน
3.
ค่ารางวัลนาจับ
4. เงินอื่น ๆ
ที่สานักงบประมาณกำหนดเพิ่มเติม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น